สุสานไคดิงห์ เป็นการผสมผสานศิลปะ ของ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ใช้แรงงานทุนทรัพย์ และเวลา สร้างนานที่สุด
โดยการสร้างสุสานได้สร้างขึ้นในสมัยที่กษัตริย์ไคดิงห์ ยังมีทรงมีชีวิตอยู่
ซึงนี้เป็นโลหะหล่อทีมีความสูงเท่ากับพระองค์จริง ที่ประมาณ 160 ซม. ซึ่งความสูงเฉลี่ยของชาวเวียดนามทั่วไปในสมัยก่อน
การสร้างสุสานนี้สร้างตามหลักฮวงจุ้ยของจีนบทภูเขาสูง และสร้างฐานของสุสานเป็น 3 ชั้น
หากสังเกตุโดยทั่วไป ในสุสานจะใช้โทนสีเหลืองเพราะเชื่อกันว่า เป็นสีแห่งกษัตริษ์ ดังนั้นประตูที่นี้จะมีสองส่วนคือ สีแดงและเหลือง ซึ่งสีเหลืองจะถูกกั่นไว้ไม่สามารถผ่านได้ เนื่องด้วยเป็นทางเดินของราชวงค์
สุสานไคดิงห์ถือว่าเป็นสุสานที่สวยความทึ่สุด และใช้งบประมาณสร้างมากที่สุดในสมัยนั้น ด้วยเหตุที่ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่ค่อนข้างยากจนในสมัยก่อน จากภัยสงคราม จึงทำให้ประชาชนไม่พอใจมากนักกับการสร้างสุสานแห่งนี้เพราะทำให้ต้องใช้แรงงาน และเงินที่ควรดูแลราษฎรนั้นเอง
เราเชื่อว่าคนที่ไปสุสานแห่งนี้นอกจากจะประทับใจกับความสวยความและทัศนียภาพแล้ว อาจจะมีอาการเมื่อยหล้ากลับมาแน่นอน เพราะว่ากว่าจะไปถึงสุสานที่สวยความต้องแลกกับการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขึ้นทีเดียว ดังนั้นใครที่วางแผนจะไป ฟิตร่างกายให้พร้อมเลยค่ะ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเมื่อถึงสุสานแน่นอน
หลังจากนั้นเที่ยวชมทิวศน์สองข้างทางกันต่อไปค่ะ และชมทิวทัศน์ของคาบสมุทรลังโก เพื่อไปช็อบปิง กันต่อค่ะ ครั้งนี้เราจะแวะค้างคืนที่ Boy lang co Resort
เมื่อมาถึงที่พักก็เพลียมา มาปุ๊บทิ้งกระเป๋าอาบน้ำเลยค่ะ ตัวเหม็นมาก
ส่วนคุณพ่อ พอเราอาบน้ำเสร็จก็ดีใจ เหมือนอยากย้อนเวลาวัยเด็กขึ้นมา ออกไปราดตะเวนนั้งบนหอคอยเหมือนในภาพ แล้วตะโกนบอกว่า ขอพ่อสักแอ็ค เอาๆไหนๆก็จัดไปค่ะ
จากนั้นก็ออกไปชมบรรยากาศแบบชาวๆบ้านแถวนั้นบ้าง
ที่เวียดนาม ลังโก เขาสูงใหญ่สุดหูสุดตา เราจึงขอนับถือคนเวียดนามที่อพยพเลยค่ะ ว่าเค้าต้องมีความพยายามในการเดินเท้ามากๆ
สระว่ายน้ำในรีสร์อท
ก่อนจะไปอาบน้ำอีกครั้งเพื่องานรื่นเริงคื่นนี้ค่ะ คืนนี้มีโชว์ร้องเพลงด้วยนะหุหุ เขิลมานานทีจะได้จับไม
ฝากผลงานเพลงไว้ก่อนนอน คริ ร้องเพลงอินจนหลับตาปี้
แล้วติดตามต่อในตอนหน้านะค่ะ จะหาเวลามาเล่าสู่กันฟังค่ะ