บัตรเข้าชมค่ะ
ราคาค่าเข้าชมอยู่ที่ 2 ดอลล่าห์ค่ะ แต่ถ้าต้องการหูฟังเพื่อฟังเรื่องราวความเป็นมาด้วยก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 3 ดอลล่าห์ เป็น 5 ดอลล่าห์ ส่วนหูฟังก็มีหลายภาษาให้เลือกฟังขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้าชม ซึ่งภาษาไทยก็เป็นหนึ่งในภาษาที่ให้เลือกฟังค่ะ บรรยากาศของทุ่งสังหาร จะค่อนข้างเงียบสงบ ผู้เข้าชมค่อนข้างให้เกียติสถานที่และผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรม ครั้งนี้ โดยการบริเวณทุ่งสังหารมีการเปิดไว้อาลัย ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งถึงเรื่องราวเลยที่เดียว
นางแบบเจ้าประจำ อิอิ
บริเวณทางเข้า โดยจะมีจุดขายบัตรด้านข้างค่ะ
หอเก็บหัวกระโหลกจากการขุดพบจากทุ่งสังหาร โดยคาดกันว่ายังไม่อีกจำนวนมากที่ยังไม่ขุดพบ
เยอะมากค่ะ
ก่อนเข้าไปไหว้เคารพผู้เสียชีวิต อย่าลืมถอดรองเท้านะค่ะ
เถาวัลย์ธรรมชาติที่ดูแล้วสวยดีเลยเอามาฝากค่ะ
จากมุมนี้ มองไปยังพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวของเขมรแดง
หอไว้อาลัย
เรื่องราวของสถานที่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
อนุสรณ์สถาน "ทุ่งสังหาร" ที่เจืองแอ็ก Choueng Ek ใน จ.กันดาล Kandal นอกกรุงพนมเปญ หลุมศพหมู่ยังปรากฏเรียงรายให้เห็นอยู่ นักโทษจำนวนมากถูกส่งไปจากตวลสะเลงและถูกสังหารที่นี่ด้วยวิธีการต่างๆ นานา ทุ่งสังหารเป็นตำนานแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ บ้างก็ถูกกลบฝังทั้งเป็น ณ ทุ่งแห่งนี้นับจำนวนมหาศาล บทบันทึกความเลวร้ายที่ปรากฎในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างป่าเถื่อนทารุณ
อุปกรณ์การเกษตรที่ดัดแปลงมาเป็นอุปกรณ์ทรมาน
กระโหลกของเหยือผู้เคราห์ร้าย
ภาพวาดที่แสดงเรื่องราวอันน่าสลดใจ ที่คนในประเทศและทั่วโลกยากจะลืมเลือน
จากภาพวาดที่บรรยายเรามาดูสถานที่จริงกันนะค่ะ
แหล่งที่เคยเป็นบริเวณฝังโครงกระดูกมากมายา
บริเวณนี้ได้ถูกขุดหัวกระโหลกขึ้นมา แต่คาดว่ายังคงมีหลายจุดที่ยังไม่ถูกขุดพบ
หอยดองเค็ม สินค้าที่จะนำเสนอหน้าพิพิธภัณฑ์ แต่รสชาติยังไงต้องลองเองนะค่ะ เนื่องจากผู้เขียนไม่ทานหอย แต่ขอเตือนว่าถ้าจะทานต้องท้องแข็งพอสมควรนะ
ก่อนไปที่ต่อไปอีกสักรูป
เมื่อแสดงความเห็นถึงความรู้สึกเมื่อไปเยี่ยมชมสถานที่ทุ่งสังหาร แล้วเห็นความโหดเหี่ยมของคนที่ต้องมาฆ่ากันเองแม้แต่คนประเทศเดียวกัน ทำให้สะท้อนเห็นถึงใจคนที่อยากแท้หยั่งถึง สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะมีอำนาจเพียงใดปลายของทุกคนก็มีปลายทางอยู่จุดเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่ยังคงรักษาให้นานเท่านานของคนๆหนึ่งคือคุณงามความดีและสิ่งที่ทำไว้ให้กับสังคม สาธุ.....
หลังจากไว้อาลัยเหล่าผู้เสียชีวิตเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปยังเป้าหมายต่อไป นั้นคือ อนุสาวรีย์อิสระภาพ หรือ Independence monument สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงการล้มล้างกลุ่มเขมรแดงและการประกาศอิสรภาพของชาวเขมร การแสดงน้ำพุเพื่อเป็นเกียรติของพวกเขาและการแสดงดนตรีตามประเพณีเขมรสำหรับเฉลิมฉลองการมาถึงของเวียดนามและชัยชนะของพวกเขาที่มีเหนือกลุ่มเขมรแดง
หลังจากไว้อาลัยเหล่าผู้เสียชีวิตเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปยังเป้าหมายต่อไป นั้นคือ อนุสาวรีย์อิสระภาพ หรือ Independence monument สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงการล้มล้างกลุ่มเขมรแดงและการประกาศอิสรภาพของชาวเขมร การแสดงน้ำพุเพื่อเป็นเกียรติของพวกเขาและการแสดงดนตรีตามประเพณีเขมรสำหรับเฉลิมฉลองการมาถึงของเวียดนามและชัยชนะของพวกเขาที่มีเหนือกลุ่มเขมรแดง
ผ่านปั๊มน้ำมันเลยถ่ายหน่อย
วันนี้อากาศร้อนมากก ช่วงที่มาอยู่ในช่วงเมษาอากาศที่นี้ค่อนข้างแห้ง เมื่อเดินทางได้ไปสักครึ่งวันรู้สึกว่าพลังงานที่ทานไว้ตอนมื้อเที่ยงเริ่มหมด รถสามล้อที่พาเราไปเที่ยวโชคดีมีที่บังแดดด้านข้าง สำหรับคนกลัวแดดอย่างเราๆ แนะนำให้ทาครีมกันแดดไปหนาเลยค่ะ เพราะกลับมาผิวเปลี่ยนสีแน่นอน กรุงพนมเปญบริเวณข้างทางมีวัดมากพอสมควร
บรรยากาศข้างทาง
วัดที่อยู่บริเวณอนุสาวรีย์อิสรภาพคือ วัดลังกา เป็นวัดสำคัญรองมาจากวัดอุณาโลมได้รับการฟื้นฟูหลังจากถูกเขมรแดงทำลายเช่นกัน ภายในวิหารมีภาพวาดชาดกต่าง ๆ ประดับไว้ โดยศาสนสถาน มีอยู่หลายแห่งในพนมเปญเหมาะสำหรับการมาเดินเที่ยวชม โดยวัดที่เก่าแก่และน่าสนใจ ได้แก่ วัดอุณาโลม ศูนย์กลางคณะสงฆ์ของกัมพูชาและถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุด ก่อตั้งขึ้นราวศตวรรษที่ 15 ก่อนจะได้รับการฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็วจากการทำลายของเขมรแดงอย่างหนัก มีพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุตั้งอยู่ วัดโมหะมนตรี มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามซึ่งวาดขึ้นในช่วงปี 1960 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาในช่วงกลางศตวรรษที่ 20
อนุเสาวรีย์อิสรภาพ หรือ Independence monument
ติดตาม ตอนที่ 3 ... เดินชมวัดพระแก้วมรกต หรือ (พระราชวังหลวงหรือพระเจดีย์เงิน) ในยามแดดแก่ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น