ห่างหายการเขียนตอนต่อไปสักระยะ ครั้งนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางของเรากันแล้ว จบที่โฮจิมินห์ ที่เวียดนาม เวลาเดินทางน้อยมาก สำหรับเวียดนาม เพราะเดินทางไปตอนเช้า กว่าจะถึงก็ใช้เวลา 6 -7 ชม. พอมาถึงก็บ่ายกว่าๆ เดินแบบมึนอีกสักพัก ก็หาที่พัก ก็เกือบเย็นพอดี ไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงกันมา มาเที่ยวกันๆๆ
พอเข้าเวียดนามสองข้างทางก่อนมาถึงเมืองนี้ บรรยายดูเหมือนตามชนบทบ้านเรานั้นแหละค่ะ บ้านเรือนไมไ่ด้แออัดมาก ส่วนใหญ่จะทำการเกษตรปลูกข้าว เหมือนๆ เรา พอมาถึงเมืองใหญ่เริ่มเห็นป้ายบอกทางมากมายละ เหมือนที่เห็นก็เป็นภาษาเวียดนาม ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกันอ่านไม่ออก อาศัยมั่วๆเอา ฮะๆๆ
รถที่มาก็จะขับวนไปรอบๆ เมือง เพื่อมุ่งหน้าไปที่ถนน ฟามมูเหลา เป็นเหมือนย่านการค้าของที่โฮจิมินห์ รถส่วนใหญ่จะผ่านเส้นนั้น
ระหว่างทางก่อนถึงก็ชมข้างทางไปก่อนละกันนะ
ครั้งนี้ไปพักที่โฮสเทล phonix 24 คนที่นี้นิยมใช่บ้านเลขที่่เป็นชื่อร้านชื่ออาคาร จะสังเกตุว่าร้านจะเป็นตัวเลขซะส่วนใหญ่ ราคาของที่พักที่นี้ก็ถือว่าค่อนข้างถูก เพราะประมาณ 8 เหรียญดอลล่า ต่อห้อง ที่พักก็สบายพอสมควร แต่ไม่ได้หรูหราอะไรมาก เพราะเที่ยวแบบประหยัด เดินสำรวจราคาจนมาพอใจที่นี้ก็จองไปห้องนึง หนึ่งคืน
สภาพภายในห้อง ไม่เล็กไม่ใหญ่ มาสองคนนอนได้สบาย ภายในจะมีเครื่องอำนวยความสะดวก จำพวก เครื่องทำความร้อน ห้องน้ำ สบู่ก้อน ยาสระผม แปรงสีฟัน แอร์ ทีวี โต๊ะเขียนหนังสือ และมีฟรีอินเตอร์เน็ตสำหรับให้อับเดตเพื่อนด้วยค่ะ
เดินหาที่พักกันจนเหนื่อยก็อาบน้ำอาบทา หาอะไรกินกัน มาเวียดนามนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรมาทั้งสิ้น ตายเอาดาบหน้า จากที่พักเดินมาทางซ้ายมือ สักระยะไม่ใกล้มาก เจอร้านนึงเป็นช่องเล็ก เลยแวะหาของกินอร่อยๆ ที่นี้อาหารจะติดรสชาติทางมันๆนะ ว่าแล้วสักเมนูแรก แพนเค้กเวียดนาม น่าตาตามที่เห็นค่ะ เป็นแป้งกรอบๆ มีน้ำจิ้ม ไม่เผ็ดมาก
ข้างในประกอบไปด้วยหมูสับ ถั่วงอก ต้นหอม กุ้ง รสชาติคล้ายหอยทอด แต่แป้งจะแข็งและกรอบกว่า
หอมเหลืองชวนน้ำลายไหล กินคู่กับผัก อร่อยมั๊กๆ
จากนั้นไหนๆ ก็มาถ้าไม่สั่งเวียดนามโรล สปริงค์ หรือว่าก๋วยเตี๋ยวลอดเวียดนามนั้นเอง ชื่อเก๋ดีนะ
อั้ม ... อร่ิอยจุง นางแบบเจ้าประจำ
กินอิ่มแล้วหาน้ำล้างปากด้วยน้ำ เสาวรสเปรี้ยวๆหวานชื่นใจ ที่เวียดนามก็หาทานได้นะ
กินจนหมดแก้ว แต่แล้วก็ยังจะอยากหาของหวานเย็นกระแทกปากสักหน่อย เดินตรงไปด้านขวาจากร้านมาที่ร้านขนมหวาน ร้านนี้ ขอบอกว่าคนเยอะมากกตอนมาไม่มีที่ต้องยื่นรอโต๊ะพอเห็นก็ขอเข้าไปแจมกับหนุ่มน้อย
ร้านนี้ขายน้ำชา เต้าหู้ขนมหวาน อร่อยดี รสชาติไม่หวานจนเกินไป
น้ำมะนาว ตะไร่ เปรี๊ยวถึงทรวง แสบคอเลย
แอบสังเกตว่าทุกโต๊ะจะมีเจ้าสิ่งนี้ไว้ ตอนแรกนึกว่าเค้าแจก เหมือนให้เช็ดมือเช็ดปากเหมือนบ้านเรา ก็แอบหยิบออกมา พอตอนกลับมีพนักงานมาเดินขวางหน้าตกใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่าเก็บเงินค่าผ้าเช็ดหน้าด้วยครับ เราก็หร่า งั้นคืน ฮะๆๆ อายสุดๆๆ
ประชาสัมพันธ์กันเผื่อใครอยากไป รูปนี้นางแบบสวยมากก
พูดดิ้งเย็นลำไย
นายแบบ น่ารักมากก พอบอกจะถ่ายรูป จากที่งอแง ก็ูชูสองนิ้วเลย ท่ายอดฮิต
กินเสร็จไปเดินย่อยกัน ระหว่างทางไปสวนแห่งชาติจะสังเกตไม่ยาก คือ จะมีต้นไม้แบบนี้ ตลอดทาง เดินไปจนเห็นว่าต้นไม่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นนั้นแหละใช่เลย
มาถึงแล้ว พักเหนือย ตอนมาถึงก็มีหนุ่มๆมาชวนไป ดื่ม เฉยเลย บอกว่าเรามาจากไหน พอมาจากไทยก็เม้าใหญ เราเลยงงว่านี้เป็นวัฒนธรรมเค้า หรือว่าเค้าคิดว่าเราเป็นอะไร แบบว่าไม่ได้อยากดื่มอะ เง้อออ ชายเวียดนามเจ้าชู้นะเนี่ย
ในโฮจิมินห์ ส่วนใหญ่จะโดยสารด้วยมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นคนจะเยอะมากก เราต้องฝึกวิชาข้ามถนนให้ดีๆ เราที่นี้เยอะจริง ถ้าคนที่เคยไปกัมพูชา จะรู้ว่าที่นี้ ยิ่งกว่านะ เวลาข้ามเราก็ตั้งปาณานสติให้ดี แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ย้ำนะ เพราะถ้าเค้าจะไปเค้าจะอ้อมหลังเราไป และถ้าเราลังเลถอยหลังก็จะโดนชนได้
เนื้อคู่เค้าเกิดแล้วนะ แต่โตช้าไปหน่อย ขี้ตูเด็กเอา จิๆๆ
เดินสักพักก็ค่ำแล้ว ตลาดเบนเท็น ของกินยั่วตายั่วใจมากที่นี้
ด้านข้างของตลาดจะเป็นคิวรถ ทั้งรถเท็กซี่และรถประจำทาง สำหรับคนจะไปเที่ยวตามจุดต่างๆ แต่ด้วยเวลาน้อยมาก เลยไม่ได้ไปไหน อาศัยเดินเท้าอย่างเดียว น้องสาวที่น่ารัก อึดมากก เดินไม่บ่นเลย
เยื้องกับหอนาฬิกาตลาดเหนือจะเป็นวงเวียน ที่มีขุนพลขี้ม้ากลางใจเมือง เดินข้ามถนนด้วยความระมัดระวังมาทางสวนหย่อมย่านถนนฟามมูเหลา จะเจออาหารหน้าตาแบบนี้ริมข้างทาง หน้าตาแปลก ไม่คุ้นเคย แต่ไหนก็มาแล้วถ้าไม่ได้ชิมให้รู้จะรู้ได้อย่างไงว่าอร่อยหรือป่าว จริงไหม เลยจัดไป คนละ อัน กินคำแรก อื้มมม หร่อย จังฮู้ กินหมด ไปซื้ออีกแผ่น ติดใจ เรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่รสชาติดีที่เดียว
เหมือนเป็นแผ่น แหนมเนืองที่เรากินๆกัน แล้วเอามาทาซอสปิ้ง ให้หมูบด ใส่พริก แซ่บดี
แซวแม่ค้า บอกว่าจะถ่ายรูปไว้ว่าใครทำอร่อย แกยิ้ม พอเรานับ 123 ก็มีชูสองนิ้วตามระเบียบ ดูน่ารักไปอีกแบบ
หน้าตาเสร็จแล้วเป็นเช่นนี้ ร้อนหน่อยนะ กินระวังด้วย ฮุ!
คอนเฟริ์มคุณหรีด อร่อยเลิศ
น้ำลายไหล
ตามด้วยเมนูต่อไป จำชื่อไม่ได้ มาดูกัน
ขั้นตอนการทำโดยละเอียด มีผัก มีหมู เครื่องปรุง ม้วนๆๆ กุ้งแห้งด้วยนะ
แล้วตัดๆๆ แป้งที่นี้อเนกประสงค์จังได้หลายเมนูเลย
สวนหย่อมกลางใจเมือง มีครอบครัวจูงลูกออกมาเดินเล่น น่ารักอะ ขาว แก้มตุ้ยนุ้ย
ตลาดหอเหนือ แหล่งช็อบปิ้งของนักท่องเที่ยว แนะนำว่าต่อหน่อยนะ
นี้ค่ะชอบและก็แนวคิดดี คือ โซล่าเซลกังหัน ทำพลังงานไฟ ประหยัดดี
เที่ยวจนเหนือยก่อนกลับที่พักคืนนี้ เอาคาราวานรถมาฝากกัน
คู่การเดินทางที่หยิบมาจากที่พัก เดินชมตามจุดที่แดง เหมือนไปแรลลี่เลย อิอิ ทำสมองให้ว่างแล้วตามมันไป
เช้าวันต่อมาจะขึ้นรถกลับช่วงเที่ยงๆ ให้ถึงพนมเปญค่ำๆ
ที่นี้โฮจิมินห์
อาหารเช้าวันนี้
ผัดผักบุ้งกับไข่เค็มหมูสับตุ๋น อยากกินอีก
กินคู่กับน้ำซุปผักบุ้ง เปรี้ยวนิส แก้เลี้ยน
ใกล้ถึงเวลาที่ความสนุกของการเดินทางจะจบลงแล้ว เห้อออ
ซื้อตั๋วกลับพนมเปญเพื่อ นั้งเครื่องกลับบ้านเรา พี่พนักงานคนหล่อ ที่ใจดีตลอดการเดินทาง สำหรับการทักทายและการดูแลที่ดีคร้าา พูดอังกฤษเก่งมากคนนี้
อาหารมื้อสุดท้ายของการเดินทาง ไหนๆก็กลับไทยละ ขอกินข้าวให้อิ่มละกัน
จานนี้ของคุณพี่ค่ะ
ของว่างแวะซื้อจากปั๊มน้ำมัน
พะโล้หมูหน่อไม้
กุ้งเผา จานหย่อมๆ
แล้วต่อรถกลับสนามบิน ด้วยเงิน ก้อนสุดท้ายสองคนพี่น้องรวมกัน ที่ 5 ดอลล่า ต่อเค้าสุดริด จาก 10 เหรียญ เพราะถ้าไม่ให้ก็กลับไม่ได้ หมดตังที่แลกมา T T
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั้น เห็นไหม
จ่ายค่าเสียหาย และรอยยิ้มดีๆๆ พี่คนขับใจดีมากก อยู่ค่อยมองเราจนเข้าสนามบินเลย ขนาดเข้าไปประตูแล้วยังยื่นมอง โบกไม้โบกมือ ตลอดเลย ซึ้งอะ ภาพนั้นเห็นแล้วประทับใจน้ำตาไหลเลย
ก่อนเช็คอินขึ้นเครื่อง
อำลาทริปการท่องเที่ยวที่ครบรส ครั้งนี้ เห้อออ
บายยยยยย ๆๆๆๆๆ แล้วเจอกันไหมน้าาาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น