ก่อนอื่นต้องขอกล่าวคำว่าสวัสดีทุกคนนะค่ะ....และขอบคุณทุกกำลังใจ ที่ติดตามการเดินทางกันมาตลอด ครั้งนี้การเป็นเดินทางพักผ่อนแบบสั้นๆ 1 วันในเมืองหลวงกันคร้า
โดยเรามาเริ่มต้นกันจากสนามบินดอนเมืองกันเลยนะค่ะ ปกติเมื่อมาถึงสนามบินดอนเมือง หลายคนลงจากเครื่องปุ๊บ เราก็จะมุ่งหน้าหารถเท็กซี่ส่งกันใช่ไหมเอ่ย... แต่ครั้งนี้เรามาเที่ยวกัน เราจะไปแบบสบายๆ ก็กระไรอยู่ชะม้าา และเราก็มีเวลากันพอสมควรเลยอยากเริ่มทริป " ด้วยรถไฟไทย ใช้สิทธิ์ รถไฟฟรีกัน" หน่อยค่ะ ย้ำนะ ต้องมีเวลาและไม่รีบจริง เพราะการนั้งรถไฟ เวลามักไม่ค่อยแน่นอนเท่าไร มาถึงก็รอบดึกแล้วค่ะ เราไปแวะหาน้องสาวโดยนั้งรถไฟไปลงสามแสนกัน ประหยัดถึงที่หมาย แน่นอน
สำหรับคนที่ไม่เคยนั้งรถไฟฟรี ก็ไม่ยากค่ะ เข้าไปที่เจ้าหน้าที่ แล้วถามเค้าว่ารถไฟธรรมดาที่ต้องการไปมารอบไหน โดยปกติก็จะมาเรื่อยๆค่ะ ราคาตั๋วก็ 0 บาท เช็คชานลาขึ้นให้ถูกต้องเพราะขึ้นผิดด้านก็ไปคนละเรื่องเลยนะ ถ้าไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ก็ยินดีช่วยเหลือค่ะ
กล่าวออกตัวก่อนว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถไฟฟรี ที่สถานดอนเมือง ไปลงสามแสน เพราะส่วนตัวไม่ค่อยได้มาเที่ยวกรุงเทพบ่อยนัก เลยอยากใช้เวลาด้วยกันกับน้องสาวสักหน่อย
สัมภาระที่แบกเป้คู่ใจเหมือนทุกครั้งที่เดินทาง เป้เดินทางเหมือนเป็นเพื่อนหรือส่วนหนึ่งไปแล้วค่ะ
ภายในบรรยากาศของรถไฟฟรี วันนี้คนไม่เยอะมากเท่าไร ขึ้นตอนค่ำอากาศไม่ร้อน แต่ได้บรรยากาศว่านั้งแท็กซี่ชัวร์ๆ ค่ะ อิอิ จากนั้นก็นอนพักที่สามแสน คืนนึงก่อนค่ะ
รุ่งเช้า เรามานั้งรถเมล์ มาลงที่อนุสาวรีย์แล้วข้ามสะพานมาที่ ห้าง century กัน เพราะวันนี้เรามีเจ้ามือจะพาเราไปกินสเต็กอร่อยๆ กัน จะปฏิเสธก็กลัวเสียน้ำใจคริ อยู่ในห้างแห่งนี้แหละค่ะ
และแล้วก็มาถึงร้าน Eat Am Are ส่วนตัวไม่ค่อนถนัดทานอาหารแบบนี้เท่าไร เลยไม่แน่ใจว่าอร่อยของเรากับคอเสต็กจะเหมือนกันป่าวนะ อิอิ เพราะปกติกินแต่ ส้มตำ สกเล็ก ลาบ อะไรประมาณนั้น
ร้านนี้ก็มีเนื้อสเต็กหลากหลายชนิดค่ะ แต่เราเองชอบกินเป็นสเต็กปลาเพราะไขมันน้อยดีต่อสุขภาพ ใครจะสั่งเนื้อสัน เนื้อหมู ไก่ ได้หมดตามใจชอบค่ะ แต่มื้อเช้าวันนี้ขอเบาๆ
ออร์เด้อ เนื้อปลาไป กับมันบด กับกาแฟ รสชาติก็อร่อยดีค่ะ เนื้อจะกรอบๆ บางๆ มีข้าวผัดด้วยถือว่าเป็นมื้อเช้าที่อยู่ท้องและอิ่มมากก
กาแฟแก้วนึ่งเพิ่มความชุ่มคอ
เป็นชามะนาวหวานเปรี๊ยวชุ่มคอที่สุด แอบลองกินของน้องสาวตอนเผลอ แหะๆๆ ไม่งั้นจะมารีวิวไม่ได้ว่ารสชาติอย่างไรไงค่ะ (แก้ตัวน้ำขุ่นๆ)
หลังจากสั่งอาหารไป ก็จะมีพนักงานมารับเมนูและเอาเมนูมาวางให้เราแบบนี้นะ เราจะได้ประมาณค่าใช่จ่ายได้ว่าสั่งไปเท่าไรแล้ว ที่นี้ราคาเสต็กถือว่าราคาไม่สูงมาก สามัญชนอย่างเราก็กินได้สบาย ใครไปทานมาแล้ว มาแบ่งปันกันได่นะค่ะ หรือมีที่ไหนแนะนำก็ยินดีมาก จร้า
นี้คือเมนูที่น้องสาวสั่ง ดูน่าทานแหะ ทำไมเราไม่สั่งแบบนี้บ้างงะ จิตนาการเหมือนทานคอหมูย่างละกัน หุหุ
อันนี้ของชอบ คือผักโขมชีส เยอะๆๆ ยืดเหนี่ยวนุ่ม อร่อยจัง อยากทานอีก
ส่วนนี้คือเมนูของเราเอง แบบรักษาหุ่น แต่อิ่มเหมือนกัน อร่อยย
ก่อนทานกันหมดเอามายั่วอีกภาพ หลังจากที่เราทานอาหารกันอิ่มหน่ำสำราญแล้ว ก็มาหาวิธีการเที่ยวเมืองหลวงภายใน 1 วันที่ประหยัดกันดีกว่า ยื่อปรึกษากับน้องสาวนานสองนาน เลยสรุปว่าเราไป BTS กัน ประหยัด เที่ยวทั่วเมืองไปโล๊ด รอบนี้เราซื้อบัตร One day pass รู้สึกจะราคาคนละ 130 บาท ประมาณนี้แหละ เดินทางสะดวกรวดเร็ว แล้วราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการเดินทาง ภายใน 1 วัน
จากนั้นก็ไปกันต่อ เริ่มจาก Terminal 21 ตั้งอยู่บนสี่แนกอโศก บนถนนสุขุมวิท ค่ะ บรรยากาศตั้งเยอะไม่มาถ่ายแต่ดันมาชอบห้องน้ำเลยเอามาฝากกัน เผื่อใครจะได้ไอเดียไปตกแต่งที่บ้านนะ
อีกมุมค่ะ ก่อนถึงบริเวณขายของกิน
ถ่ายเสมือนว่ากำลังเดินเล่นอยู่บ้านตัวเอง วันนี้เน้นบรรยากาศห้างนะค่ะ จะต่างกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา จะพาทุกคนมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
เค้าจะตกแต่งแต่ละชั้นเป็นสไตล์ต่าง ๆ การตกแต่งเป็นเมืองท่องเที่ยวต่างๆ แบ่งตามชั้น โดยแต่ละชั้นจะตกแต่งในสไตล์ที่ไม่เหมือนกันดังนี้
ชั้น LG ชั้นล่างสุด ตกแต่งแบบ CARIBBEAN
ชั้น GF ตกแต่งแบบ ROME อิตาลี
ชั้น MF ตกแต่งแบบ PARIS ฝรั่งเศส
ชั้น 1F ตกแต่งแบบ TOKYO ญี่ปุ่น
ชั้น 2F ตกแต่งแบบ LONDON อังกฤษ
ชั้น 3F ตกแต่งแบบ ISTANBUL ตุรกี
ชั้น 4F ตกแต่งแบบ SAN FRANCISCO สหรัฐอเมริกา
ชั้น 5F ตกแต่งแบบ SAN FRANCISCO สหรัฐอเมริกา
ชั้น 6F ตกแตงแบบ LOS ANGELLES สหรัฐอเมริกา
แต่ที่ชอบก็น่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่นนี้แหละ เพราะได้มีโอกาสจับก้นซูโม้ แบบใกล้ชิด ฮะๆๆ แอบโรคจิต ในterminal 21 มีมุมสวยให้เก็บภาพเยอะแยะไปหมด ที่ไม่ไ้ด้เอามาลง เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เที่ยวที่อื่น แหะๆ เที่ยวเสร็จแล้ว เราไปต่อกันที่ พารากอน
ไปเดินสยามกอน ที่ช็อบและที่กินของไฮเอน ใครสนใจซื้อรถสักคันเค้าก็มีเสนอให้นะ แล้วก็ลงไป ถ่ายรูปกับ แพนกวินน้อย
น่าตาคล้ายกันอะป่าว
จากนั้นมาดูหุ่นขี้ผึ้งที่ มาดามทุสโซ ถ่ายรูปคู่กับราดาชื่อดัง ระดับโลก
ต่อด้วยหอศิลปวัฒนธรรม
ภายในเป็นการแสดงภาพวาด แนว อาร์ตๆ เล่นกับจิตวิญญาน
ระหว่างขึ้นรถ BTS เจอแฟนคลับของฮัน เลยเก็บภาพความประทับใจสักหน่อย แล้วก็ยื่นชื่นชมจนหน่ำใจแล้วไปต่อ พยายามทำเวลาเพื่อไม่ให้เย็นมากจนเกินไป จากนั้นต่อBTS มาลงที่สาทรกัน เพื่อจะไปเก็บบรรยากาศริมแม่น้ำ โรแมนติกกับน้องสาวก่อนจะเดินทางกลับที่พัก
ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาชมวิวสองข้างทางและลมประทะหน้า ชิ่วๆๆ ถ้าเปลี่ยนจากน้องสาวเป็นคนรู้ใจก็น่าจะดี อิอิ
พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้วเร่งกันหน่อยค่ะ เด่วไม่ได้ถ่ายรูปและทานอาหาร
มาแล้วไกด์กิตติมาศักดิ์ของทริปนี้ เป็นทริปที่โหดมากเดินตลอดเลย อึดจริงๆๆ
บรรยากาศยามเย็น และนี้คือสาเหตุที่ต้องทำเวลากัน ไม่งั้นแสงหมด ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ ชาวทอฝันแล้วเสียดายแย่
จับชิงช้าได้ทั้งอันเลยนะ จะยกกลับบ้านดีไหม
อันนี้เป็นรูปปั้นคนแบกข้าว
ก่อนจะไปฝากอีกสักรูป
สวยไหมค่ะ
จากนั้นเดินทางกลับมายังที่พัก แถวอนุสาวรีชัยกัน
แวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนกลับบ้านไม่งั้นคืนนี้มีหิวแน่ๆๆ หมดทริปแล้วค่ะสำหรับคืนนี้กับการพาเที่ยวเมืองหลวง 1 วันเต็ม กับทริปที่ประหยัดที่สุด
แต่เด่วก่อน!! ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ค่ะ ตอนกลับ มีเวลาอีกครึ่งวันก่อนเดินทางไปหาดใหญ่ เลยขอนั้งรถไฟฟรี มาส่งเที่ยวนครปฐมก่อนกลับบ้านสักหน่อย นั้งจากสามแสนก็นานเหมือนกันค่ะ เกือบ 4 ชมได้มั้ง
มาถึงก็เห็นกระหง่านมาก ด้วยพระธาตุเหลืองทอง
ขาไป ลุยเดี่ยว ขากลับลากเด็กน้อยกลับมาด้วย เห็นพระธาตุตรงโน้น ไปกันเลย โล๊ดดๆๆ
มาขอพรพระธาุตุที่ศักสิทธ์ ของให้โชคดี ได้มีโอกาสไปเที่ยวในและต่างประเทศ จะได้มีอะไรมารีวิวกันเยอะๆเถิ้ดดด............
ประน้ำมนต์ติดทอง ทำบุญกันเป็นสิริมงคลกันถ้วนหน้า ได้ทั้งแหล่งกิน แหล่งช็อป แล้วตบด้วยการทำบุญคุ้มจริงๆ
ด้านหน้าองค์พระคร้าาา จุดธูป ขอพรกันนะ
อีกรูปก่อนกลับ
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการท่องเที่ยวครั้งหน้านะ
นั้งรถไฟกลับบ้านดีกว่า คิดถึงหาดใหญบ้านเราที่สุดดดด
ก่อนกลับบ้านติดใจนวัตกรรมอันนี้มากเลยที่สถานีรถไฟ คิดว่าน่าจะเอาไว้ป้องกันนก อุจจาระใส่มั้ง แต่คิดว่าได้ผลดีที่เดี่ยว
รถไฟำไทยพาคุณได้ไปทุกที่จริง
ไปก่อนนะคร้าาาา อ่อค่ารถไฟ ราคา 815 บาทต่อคนนะ ถึงสถานีหาดใหญ่ แวะทานไก่ทอดกัน โย่วว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น